ตัวอย่างแนวข้อสอบตำรวจรัฐสภา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
1. บุคคลสำคัญ หมายถึงบุคคลใด
ตอบ บุคคลที่มีความสำคัญยิ่งในทางราชการ ซึ่งต้องให้ความคุ้มครองให้ เหมาะสมกับฐานะ สถานที่ และ เวลา
2. บุคคลสำคัญแบ่งออกได้กี่ประเภท
ตอบ 7 ประเภท ได้แก่
1. พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ผู้แทนพระองค์ และ พระราชอาคันตุกะ
2. ประธานองคมนตรี นายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา และ ประธานศาลฎีกา
3. สมเด็จพระสังฆราช และ ผู้นำทางศาสนาอื่น
4. ประมุขรัฐต่างประเทศ ผู้นำรัฐบาลต่างประเทศ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ แขกของรัฐบาล และ หัวหน้าคณะทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย
5. บุคคลสำคัญทางทหารตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด
6. บุคคลอื่นที่เดินทางเยือนประเทศไทย และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร้องขอ
7. บุคคลสำคัญตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี
3. Causes of Assassination หมายถึงอะไร
ตอบ สาเหตุของการประทุษร้าย
4. สาเหตุของการประทุษร้าย ได้แก่อะไรบ้าง
ตอบ 1. สาเหตุทางการเมือง (Political Causes)
2. สาเหตุในทางเศรษฐกิจ (Economics Causes)
3. สาเหตุทางด้านอุดมการณ์ (Ideological Causes)
4. สาเหตุทางด้านจิตวิทยา (Psychological Causes)
5. สาเหตุทางด้านส่วนตัว (Personal Causes)
6. สาเหตุจากการได้รับจ้าง (Mercenary Causes)
7. สาเหตุจากการถูกบังคับขู่เข็ญ (Black Mail Causes)
5. การลอบสังหารประธานาธิบดี Augusto Pinochet แห่งประเทศชิลี เมื่อวันที่ 7 กันยายน 1986 ในขณะที่กำลังเตรียมตัวจะกล่าวคำปราศรัย ในการหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไป เป็นสาเหตุการประทุษร้ายใด
ตอบ สาเหตุทางการเมือง (Political Causes)
6. ความพยายามลอบสังหารอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ George Shultz เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 1988 ในโบลิเวีย เนื่องจากแผนการในการกำจัดยาเสพติดของรัฐมนตรีผู้นี้เป็นสาเหตุการประทุษร้ายใด
ตอบ สาเหตุในทางเศรษฐกิจ (Economics Causes)
7. สาเหตุทางด้านอุดมการณ์ (Ideological Causes) ได่แก่สาเหตุใดบ้าง
ตอบ 1. สาเหตุอันเนื่องมาจากความเชื่อทางศาสนา หรือสังคมฝ่ายตรงข้ามคิดว่าถ้าตนเองสามารถเปลี่ยนระบบที่มีอยู่ขณะนั้นได้ โดยการประทุษร้ายบุคคลสำคัญทางศาสนา จะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางศาสนาได้
2. การพิพาทระหว่างกลุ่มเชื้อชาติ และเผ่าพันธุ์ ก็อาจเป็นต้นเหตุของการประทุษร้ายได้เนื่องจากการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มเพื่อแย่งชิงอำนาจกัน
8. ความรับผิดชอบของส่วนราชการได้แก่อะไรบ้าง
ตอบ 1. ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง รับผิดชอบจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ภายในขอบเขตและความเหมาะสม
2. ส่วนราชการมีหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ รับผิดชอบดำเนินการ
3. ส่วนราชการเจ้าของพื้นที่ ซึ่งให้การต้อนรับบุคคลสำคัญรับผิดชอบ ดำเนินการรักษาความปลอดภัยในเขตพื้นที่ที่รับผิดชอบ
4. ให้องค์การรักษาความปลอดภัย ช่วยเหลือ ประสาน และอบรมชี้แจง เกี่ยวกับมาตรการในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญแก่ส่วนราชการตามที่ได้รับการร้องขอ
9. การรักษาความปลอดภัยพระมหากษัตริย์ ใช้ระเบียบการใด
ตอบ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะ พ.ศ.2531
10. องค์ประกอบในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญให้เกิดประสิทธิภาพประกอบด้วยอะไรบ้าง
ตอบ 1. วางมาตรการป้องกันต่าง ๆ รอบตัวบุคคลสำคัญให้รัดกุม
2. รวบรวมข่าวสารที่มีผลกระทบกระเทือนต่อบุคคลสำคัญให้มากที่สุด ทั้งทั่วไปและในพื้นที่ที่บุคคลสำคัญจะไปเยี่ยมเยือน เพื่อนำมาประเมินค่าของข่าวสารอันจะช่วยให้การรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญได้ผลดีที่สุด
3. ต้องมีการวางแผนสำรวจล่วงหน้า
4. ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการจับกุมตรวจค้น หรือกักกันบุคคลที่ไม่น่าไว้วางใจ
5. วางแผนการใช้ขบวนยานพาหนะของบุคคลสำคัญในพื้นที่ต่าง ๆ การนำพาบุคคลสำคัญออกจากพื้นที่อันตรายอย่างรวดเร็ว เพื่อให้พ้นอันตรายที่จะเกิดขึ้น
6. การได้รับความร่วมมือจากบุคคลสำคัญ
11. การจัดกำลัง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแบ่งออกเป็นกี่รูปแบบ
ตอบ 3 รูปแบบ ได้แก่
1. แบบเปิดเผย เป็นการแสดงตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ เพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามได้ทราบ
2. แบบปกปิด จะไม่เปิดเผยแสดงตัวให้บุคคลทั่วไปทราบ โดยแต่งกายคล้ายประชาชนทั่วไป ให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมของสถานที่นั้น ๆ
3. แบบผสม เป็นการจัดกำลังโดยใช้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้ง 2 รูปแบบมาปฏิบัติงานร่วมกันในลักษณะผสมผสาน
12. สายตรวจเดินเท้า รถตรวจการณ์ ชุดรักษาความปลอดภัยที่วางไว้ตามจุด เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในวงรอบใด
ตอบ วงรอบชั้นนอก การวางกำลัง จะต้องวางกำลังเป็นวงรอบอย่างน้อย 3วงรอบ ได้แก่
1. วงรอบชั้นใน เป็นการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ใกล้ชิดบุคคลสำคัญมากที่สุด
2. วงรอบชั้นกลาง หมายถึง วงรอบที่ล้อมรอบวงรอบชั้นใน เช่น บริเวณโดยรอบพิธีหรือรอบอาคารบ้านพัก
3. วงรอบชั้นนอก เป็นพื้นที่ที่ห่างไกลจากบุคคลสำคัญ เจ้าหน้าที่วงรอบนี้ ได้แก่สายตรวจเดินเท้า รถตรวจการณ์ ชุดรักษาความปลอดภัยที่วางไว้ตามจุดรอบนอก
13. Safe Haven คืออะไร
ตอบ พื้นที่หลบภัย พื้นที่ที่อยู่ในสถานที่ที่ให้ความปลอดภัยได้ชั่วคราวสำหรับบุคคลสำคัญและครอบครัว
14. หลักในการเลือกห้องที่จะกำหนดเป็นพื้นที่หลบภัยนั้น ควรพิจารณาจากปัจจัยใดบ้าง
ตอบ 1. เส้นทางที่ไปยังพื้นที่หลบภัย ต้องไม่ผ่านพื้นที่อันตรายใด ๆ (Accessibility)
2. สามารถให้ความคุมกันได้ (Ability to Defence)
3. สามารถดำรงการติดต่อสื่อสารได้ (Ability to Communications)
4. มีเส้นทางถอนตัวได้อย่างปลอดภัย (Ability go Escape)
******************************************************************
1. พรบ. ระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา ฉบับปัจจุบันที่ใช้อยู่เป็นฉบับที่เท่าใด พ.ศ. ใด
ก. ฉบับที่ 4, พ.ศ. 2535
ข. ฉบับที่ 5 , พ.ศ. 2538
ค. ฉบับที่ 6, พ.ศ. 2551
ง. ฉบับที่ 7 , พ.ศ. 2554
ตอบ ง. ฉบับที่ 7 , พ.ศ. 2554
พระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554
2. พรบ. ระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554 ประกาศใช้เมื่อใด
ก. วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2551
ข. วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ค. วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2550
ง. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550
ตอบ ข. 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ให้ไว้ ณ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
3. พรบ. ระเบียบบริหารรายการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554 มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ค. 3 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง. 7 วันหลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ตอบ ข. ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
พรบ. ระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
4. “บุคคลซึ่งได้รับราชการโดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนในส่วนราชการ สังกัดรัฐสภา” หมายถึงผู้ใดใน พรบ.ฉบับนี้
ก. ข้าราชการฝ่ายนิติบัญญัติ
ข. ข้าราชการฝ่ายพลเรือน
ค. ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
ง. รัฐสภา
ตอบ ค. ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
“ข้าราชการฝ่ายรัฐสภา” หมายความว่า บุคคลซึ่งรับราชการโดยได้รับเงินเดือนจากเงิน งบประมาณหมวดเงินเดือนในส่วนราชการสังกัดรัฐสภา
5. ผู้ใดรักษาการตาม พรบ. ฉบับนี้
ก. ประธานรัฐสภา
ข. ประธานวุฒิสภา
ค. ประธานสภา
ง. นายกรัฐมนตรี
ตอบ ก. ประธานรัฐสภา
มาตรา 5 ให้ประธานรัฐสภารักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
6. “ก.ร.” หมายถึงข้อใด
ก. คณะกรรมการข้าราชการรัฐสภา
ข. คณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
ค. กรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
ง. คณะกรรมการรัฐสภา
ตอบ ข. คณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
พรบ. ระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 13 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง
เรียกว่า “คณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา” เรียกโดยย่อว่า “ก.ร.” ประกอบด้วยประธาน
รัฐสภาเป็นประธานกรรมการ รองประธานรัฐสภาเป็นรองประธานกรรมการเลขาธิการ ก.พ.
เลขาธิการวุฒิสภา เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งรัฐสภาเลือกมีจำนวนไม่เกิน
แปดคน เป็นกรรมการ ในกรณีที่มีสองสภาให้แต่ละสภาเลือกสภาละไม่เกินสี่คน ให้ประธาน
รัฐสภาแต่งตั้งเลขาธิการวุฒิสภา หรือเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรคนใดคนหนึ่งเป็นเลขานุการ ก.ร.
7. ในกรณีมีเพียงสภาเดียวนั้น “ก.ร.” จะประกอบด้วยผู้ใดบ้าง
ก. ประธานกรรมการ, รองประธานกรรมการเลขาธิการ ก.พ., เลขาธิการวุฒิสภา,เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และผู้ทรงคุณวุฒิ
ข. ประธานกรรมการ, เลขานุการวุฒิสภา, เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และผู้ทรงคุณวุฒิ
ค. ประธานกรรมการ, รองประธานกรรมการเลขาธิการ ก.พ., เลขาธิการวุฒิสภา และทรงคุณวุฒิ
ง. ประธานกรรมการ, รองประธานกรรมการเลขาธิการ ก.พ., เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและผู้ทรงคุณวุฒิ
ตอบ ก. ประธานกรรมการ, รองประธานกรรมการเลขาธิการ ก.พ., เลขาธิการวุฒิสภา,เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และผู้ทรงคุณวุฒิ
8. ในกรณีที่รัฐธรรมนูญบัญญัติให้มีสภานิติบัญญัติสภาเดียวนั้น กรรมการใน “คณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา” นั้นมีจำนวนเท่าใด
ก. ไม่เกิน 4 คน
ข. ไม่เกิน 6 คน
ค. ไม่เกิน 8 คน
ง. ไม่เกิน 12 คน
ตอบ ค. ไม่เกิน 8 คน
9. ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา คือผู้ใด
ก. ประธานรัฐสภา
ข. ประธานวุฒิสภา
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับเลือก
ตอบ ก. ประธานรัฐสภา
10. ผู้ใดมีอำนาจหน้าที่ในการแต่งตั้งเลขาธิการวุฒิสภา
ก. ประธานรัฐสภา
ข. ประธานวุฒิสภา
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับเลือก
ตอบ ก. ประธานรัฐสภา
11. ข้อใดมิใช่คุณสมบัติต้องห้ามของผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา
ก. ข้าราชการการเมือง
ข. สมาชิกรัฐสภา
ค. เคยรับราชการในตำแหน่งอธิบดี
ง. รับราชการมีเงินเดือนประจำ
ตอบ ค. เคยรับราชการในตำแหน่งอธิบดี
มาตรา 7 ผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 6 ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(1) เคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือตำแหน่งเทียบเท่ามาแล้ว หรือเคยดำรงตำแหน่งกรรมการข้าราชการประเภทใดประเภทหนึ่งมาแล้ว
(2) ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ ข้าราชการการเมือง ข้าราชการรัฐสภา ฝ่ายการเมือง สมาชิกรัฐสภา กรรมการพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
12. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 4 ปี
ง. 5 ปี
ตอบ ข. 3 ปี
พรบ. ระเบียบข้าราชการฝ่ายรัฐสภา พ.ศ. 2554 มาตรา 8 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสามปี
13. ในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่างลง ให้รัฐสภาเลือกตั้งผู้ทรงคุณวุฒิภายในกี่วัน
ก. 7 วัน
ข. 15 วัน
ค. 30 วัน
ง. 45 วัน
ตอบ ง. 45 วัน